วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556
รูปแบบเทคนิคการเสิร์ฟ : กระโดดลอยตัวเสิร์ฟ
กระโดดลอยตัวเสิร์ฟ Jump Float
ทักษะ
นี้เป็นการรวมเอาการกระโดดเสิร์ฟและการเสิร์ฟมือบนเข้าด้วยกัน
การเสิร์ฟลักษณะนี้ลักษณะของบอลจะไม่รุนแรง
แต่จะพุ่งเข้าใส่ตัวผู้รับในลักษณะส่ายและร่อนซึ่งการบังคับบอลจะทำได้ยาก
จุดสำคัญของการเสิร์ฟลักษณะนี้คือจังหวะการตีบอล การใช้แรงตบกระแทกบอลให้ส่ายร่อน
การกระโดดจะช่วยให้วิถีของบอลพุ่งขนานตาข่ายเข้าสู่ระดับอกของผู้รับ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจลักษณะการเคลื่อนที่ของลูกบอลที่มีประสิทธิภาพในการเสิร์ฟลักษณะนี้คือ
ลูกบอลจะต้องส่ายและร่อน
ดังนั้นผู้เล่นจะต้องรู้วิธีการว่าตบบอลอย่างไรถึงส่ายและร่อน ลักษณะ ของบอลที่ส่ายและร่อนนั้นเกิดจากการตบบอลโดยใช้แรงกระแทกจากฝ่ามือไปยัง
บริเวณกึ่งกลางลูกบอล การใช้แรงกระแทกจะทำให้บอลส่ายร่อนและไม่หมุน
ฝึกตีลูกบอลให้บอลส่ายและไม่หมุนจนเกิดความชำนาญ แล้วจึงค่อยกระโดดเสิร์ฟ
1. ก้าวเท้า 3
จังหวะ
2. โยนบอลขึ้นไปบนอากาศขณะก้าวเท้าแรก
3. โยนบอลไปด้านหน้าไม่สูงมากเกินไป
4. กระโดดลอยตัวไปด้านหน้าเข้าหาบอล
5. สัมผัสบริเวณกึ่งกลางของบอล
และแขนเหยียดก่อนตัวจะตกลงในสนาม
6. ลักษณะของบอลต้องไม่หมุนหรือปั่น
บอลจะต้องลอยไปนิ่ง ๆ
7. ทิศทางของลูกบอลจะต้องตรงไปยังผู้เล่นเป้าหมาย
วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556
การรับลูกวอลเลย์บอล
1. การงัดบอลจากพื้น THE COLLAPSE
ลักษณะการรับบอลนี้มักจะเกิดจากคู่ต่อสู้ตบบอลลงบริเวณพื้นที่
ประมาณ 5 ตารางฟุตด้านหน้าเรา
การเล่นลูกลักษณะนี้ถือว่าเป็นเทคนิคชั้นสูง ที่ใช้ในการเล่นวอลเลย์บอล
ลักษณะท่าทางการรับแบบนี้คือ ให้เหยียดแขนไปด้านหน้าให้ถึงจุดที่ลูกบอลจะตกพื้น
เกี่ยวบอลด้วยข้อนิ้วโป้งทั้งสองหรือใช้ท่อนแขนช้อนไปที่ใต้บอล
ก่อนที่บอลจะกระทบพื้น การงัดบอลจากพื้นอย่างมีประสิทธิภาพนั้น
ขณะที่เหยียดแขนไปที่ใต้บอลต้องส่งตัวไปข้างหน้า เข่า
และข้อศอกกระทบกับพื้นหร้อมกัน เมื่อกระทบกับลูกบอล ให้เกี่ยวบอลโดยหักข้อมือและข้อศอกเล็กน้อยก็สามารถทำให้บอลนั้นลอยขึ้นมาได้
2. การงัดบอลด้วยมือข้างเดียว THE ICE
CREAM CONE
มีอยู่หลายวิธีที่จะเกี่ยวบอลให้ได้ด้วยข้อมือและแขนของเรา
วิธีการเล่นแบบนี้มีหลักการเล่นที่ง่ายที่สุด เมื่อบอลกำลังกระทบพื้นและห่างตัวเรา
ให้ยืดแขนเกร็งข้อมือ เข้าหาบอลแล้วใช้ข้อมือเกี่ยวบอล
หลังจากนั้นเราจะต้องใช้ทักษะการพุ่ง ( DIVE ) หรือการม้วนทั้งซ้ายหรือขวา
เพื่อป้องกันร่างกายไม่ให้กระแทกพื้น
ข้อควรจำ การเล่นบอลห่างตัวด้วยมือเดียวคือ
ต้องมีทักษะการพุ่ง ( DIVE ) ม้วนหน้า หลัง ข้าง
3. การเกี่ยวบอล THE HOOK SHOT (เมื่อตัวเคลื่อนไปทิศทางตรงข้ามกับบอล)
ทักษะการรับที่ยากที่สุดทักษะหนึ่ง
คือการเกี่ยวบอลให้กลับเข้ามาในสนาม
เมื่อตัวของเราเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับบอล แต่ ” HOOK SHOT ” ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเมื่อคู่ต่อสู้ตบบอลแฉลบบล๊อคมาอย่างไร้ทิศทาง
ตัวอย่างในภาพเป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบ
ผู้เล่นสามารถเกี่ยวบอลเข้ามาในสนามได้ กุญแจสำคัญของทักษะนี้คือ
จังหวะของการใช้ข้อมือต้องพอดี
เราต้องรู้จังหวะเวลาด้วยตัวเองเพราะเราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าบอลจะมาลักษณะใด
หลังจากการเล่น ทักษะที่เราควรจดจำจังหวะความรู้สึกการเล่นไว้ พยายามให้ส่วนบริเวณข้อนิ้วโป้งสัมผัสบอล
จากภาพจะเห็นได้ว่า บริเวณด้านล่างของลูกบอล
กระทบกับข้อมือของผู้เล่นเป็นบริเวณที่ดีที่สุดที่ทำให้บอลลอยขึ้นสู่อากาศ
4. การรับบอลไกลตัวด้านข้าง THE SWEEP
บางครั้งเราจะพบว่าบอลที่มาลักษณะต่ำและไกลจากตัวเรา
วิธีการงัดบอล หรือพุ่งรับบอลมือเดียว ( DIVE ) ไม่สามารถใช้ได้
เทคนิคที่นำมาใช้ได้คือการกวาดบอล หลักสำคัญของการเล่นแบบนี้ จากภาพ
การเคลื่อนไหวของแขนจะเริ่มก่อนที่จะกระทบบอล
เพราะเราต้องการให้มีแรงพอที่จะให้บอลขึ้น แต่ไม่ต้องเหวี่ยงแขนกว้าง
ที่สำคัญคือแขนต้องตึง เมื่อกระทบบอลแล้วให้เหวี่ยงแขนตามเหมือนการตีเบสบอล
การที่แขนตึงและเหวี่ยงแขนตามนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ
จะทำให้เราสามารถควบคุมบอลได้
5. การรับลูกตบที่รุนแรง THE FALL-AWAY
ความรู้สึกที่ดีอย่างหนึ่งในการเล่นวอลเลย์บอลคือ
การสามารถรับลูกตบได้ แต่มันก็เป็นปัญหาพอสมควร ถึงแม้ว่าเราจะมีความเร็ว
เหตุผลสำคัญคือ ความเร็ว และความแรงของบอลที่คู่ต่อสู้ตบมาอาจทำให้บอลที่เรารับได้
กระเด็นไร้ทิศทางควบคุมได้ยาก การรับลูกตบที่รุนแรงหลักสำคัญคือการผ่อนแรงรับลูกตบ
แขนทั้งสองข้างประสานกันแต่ไม่เกร็ง บีบไหล่ให้แนบชิดกับลำตัวย่อตัวให้ต่ำ
เมื่อบอลมากระทบแขนให้ผ่อนแรงโดยถ่ายน้ำหนักตัวไปด้านหลัง
หักข้อศอกหรือข้อมือเล็กน้อยบอลจะลอยสูงขึ้นด้านบน
หรือถ้าบอลรุนแรงมากเมื่อบอลกระทบแขนอาจจะทิ้งตัวล้มด้านหลังก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ
แขนทั้งสองข้างต้องไม่แตกเมื่อกระทบบอลแขนตึงแต่ไม่เกร็ง การรับบอลตบที่รุนแรงนี้หากผู้เล่นฝ่ายรับทำได้ดี
จะทำให้ผู้ตบบอลเสียกำลังใจได้
บางครั้งสามารถพลิกสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นดีได้
6. การรับบอลด้วยมือข้างเดียว ONE ARM
REACH
วิธีที่ดีที่สุดในการรับบอลตบ
คือการใช้สองแขนรับ แต่ก็ไม่เสมอไปที่เราจะรับบอลด้วยสองแขน เราจะทำอย่างไรเมื่อคู่ต่อสู้ตบบอลไปมุมท้ายสนาม
ในสถานการณ์อย่างนี้เราต้องเล่นบอลด้วยมือข้างเดียว
การเล่นลักษณะนี้ทักษะเริ่มต้นคือ ท่ายืนรับบอลต้องย่อต่ำ
น้ำหนักตัวทิ้งไปด้านหน้าเพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้ง่าย
เมื่อบอลที่คู่ต่อสู้ตบลอยไปทีมุมท้ายสนาม ให้ใช้เท้าส่งตัวพร้อมยืดแขนไปเกี่ยวบอลขึ้น
เทคนิคการเล่นบอลเร็ว
การเล่นวอลเลย์บอลในตำแหน่งตัวตบบอลเร็วหากจะให้มีประสิทธิภาพสูง นักกีฬาจะต้องพยายามพัฒนาเทคนิคการเล่นให้ได้หลากหลายนอกเหนือจากการเล่นแค่บอลเร็ว A หน้า/หลังตัวเซต บอลเร็วห่าง X หน้า/หลังตัวเซต หรือกระเติงไหลหลัง ทั้งนี้เพื่อให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถจับทางได้ง่าย การเล่นบอลเร็วนั้นหากนักกีฬามีความคิดสร้างสรรค์จะสามารถสร้างรูปแบบการรุกบอลเร็วได้มากมายหลายแบบ เทคนิคที่ผมจะนำเสนอเป็นเทคนิคขั้นสูงในการเล่นบอลเร็วซึ่งมีหลายแบบโดยช่วงแรกจะเป็นเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับนักวอลเลย์บอลชายมีดังนี้
1. “บอลพม่า” (เป็นชื่อเรียกเทคนิคการเล่นบอลเร็วขั้นสูงชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดีในประเทศไทย)
(Faking A-quick and hitting B)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/burma.gif)
เทคนิคนี้เป็นการเล่นในลักษณะที่ผู้เล่นบอลเร็วเข้าทำการรุกในลักษณะบอล
A แต่ในจังหวะกระโดดจะไม่กระโดดทันที
ดึงจังหวะให้ตัวเซตเซตบอล B (บอลที่สูงเหนือตาข่าย 1-2
เมตร) จึงกระโดดตบ
การเล่นลักษณะนี้เมื่อเราเข้าทำการรุกในลักษณะบอลเร็วจะหลอกให้ตัวสกัดกั้นกระโดดสกัดกั้นบอลเร็วแต่เราดึงจังหวะเพื่อตบบอล
B เมื่อตัวสกัดกั้นตกสู่พื้นพอดีทำให้ไม่มีการสกัดกั้น
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/burmaX.gif)
สามารถใช้เทคนิคนี้เล่นกับการรุกในลักษณะบอลเร็วห่างตัวเซต
X ได้ด้วยอาจเรียกบอลลักษณะนี้ว่า X พม่า
และบอลพม่านี้สามารถเล่นได้ทั้งด้านหน้าตัวเซตและด้านหลังตัวเซต
2. “บอล XB” (Faking A-quick and hitting B)
เทคนิคนี้ลักษณะการเล่นคือผู้เล่นเข้าทำการรุกในลักษณะบอลเร็วห่างตัวเซต X แต่เปลี่ยนทิศทางมาตบบอล B ใกล้ตัวเซต
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/XB.gif)
3. “เข้าทำการรุกลักษณะบอล A แต่ทำการรุกไหลหลัง”
เทคนิคการเล่นนี้เป็นการเล่นคล้ายบอลพม่า โดยเข้าทำการรุกในลักษณะบอลเร็วหน้าแต่เปลี่ยนทิศทางการรุกโดยเคลื่อนที่ไปตบบอลไหลหลัง สำหรับผู้เล่นที่ถนัดมือซ้ายสามารถเล่นเทคนิคนี้ได้เช่นกันโดยเปลี่ยนจากการเข้าหลอก A หน้ารุกไหลหลังเป็นการเข้าหลอก A หน้ารุกไหลหน้าแทน
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/AT.gif)
เทคนิคการเล่นนี้เป็นการเล่นที่ผู้เล่นเข้าตบลักษณะบอลเร็วหน้า ซึ่งจะทำให้ตัวสกัดกั้นกระโดด เปลี่ยนทิศทางการรุกจะทำให้ไม่มีการสกัดกั้นหากผู้เล่นตัวสกัดกั้นหน้าซ้ายกระโดดสกัดกั้นบอล A ที่ผู้เล่นเข้าหลอก หรือหากผู้เล่นสกัดกั้นตัวกลางกระโดด ก็อาจจะทำให้ผู้เล่นหน้าซ้ายต้องเคลื่อนที่สกัดกั้นเพียงคนเดียว
4. “เทคนิคการลอยตัวตบ (Flyer)”
เทคนิคการลอยตัวตบเป็นเทคนิคการเล่นที่กระโดดจากจุดหนึ่งแต่ลอยตัวไปตบบอลที่จุดหนึ่ง ซึ่งเทคนิคนี้จะเป็นต้องมีศักยภาพในการกระโดดได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้เล่นสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการลอยตัวสร้างสรรค์การรุกได้หลากหลาย
4.1 การกระโดดลอยตัวจากด้านหน้าตัวเซต (ดูภาพประกอบ)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/AFlow.gif)
เป็นเทคนิคที่ผู้เล่นกระโดดจากบริเวณหน้าตัวเซต แต่ลอยตัวไปตบบอลในตำแหน่งต่างๆ เช่น บอลเร็วห่าง X บอลเร็วหน้าไหล บอลเร็วหลังA (ตัวเซต) บอลเร็วห่าง X หลัง(ตัวเซต) ดังภาพ
4.2 การกระโดดลอยตัวจากด้านหลังตัวเซต
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/ABackFlow.gif)
การเล่นจะคล้ายคลึงกับการกระโดดลอยตัวหน้าตัวเซต
4.3 การกระโดดจากตำแหน่งรุกบอลเร็วห่าง X ลอยตัวมาตบบอลเร็ว A ใกล้ตัวเซต
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/XFlowA.gif)
4.4 การกระโดดจากตำแหน่งรุกบอลเร็วห่าง X หลังตัวเซตลอยตัวมาตบบอลเร็ว A หลังใกล้ตัวเซต
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/XbackFlowAback.gif)
เทคนิคการลอยตัวตบนี้เป็นการหลอกให้ตัวสกัดกั้นกระโดดผิดตำแหน่ง โดยปกติในการสกัดกั้นการรุกบอลเร็ว ตัวสกัดกั้นจะต้องกระโดดพร้อมตัวรุกและตรงแนวการรุกของตัวตบ (face-to-face) หากผู้เล่นกระโดดจากจุดหนึ่งลอยไปตบบอลอีกจุดหนึ่งจะทำให้ตัวสกัดกั้นกระโดดผิดตำแหน่ง เทคนิคการลอยตัวตบ ต้องใช้ศักยภาพในการกระโดดสูง เทคนิคนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับนักวอลเลย์บอลหญิงเท่าใดนัก สำหรับนักวอลเลย์บอลหญิงเหมาะสมกับเทคนิคประเภทการเข้ารุกแล้วเปลี่ยนทิศทางมากกว่า
“เทคนิคการเล่นบอลเร็วขั้นสูงสำหรับนักกีฬาหญิง”
เทคนิคการเล่นบอลเร็วของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงที่เรามักเห็นกันบ่อยในปัจจุบันคือ เทคนิคการก้าวเขย่งตบ หรือที่เรารู้จักกันว่า ไหลหลัง หรือกระเติงหลังนั่นเอง แต่ลักษณะการเล่นของนักกีฬาไทยโดยส่วนใหญ่การเคลื่อนที่เพื่อไปทำการรุกยังไม่มีการพลิกแพลงทำให้การดักทางของแนวสกัดกั้นทำได้ง่าย ในระดับทีมชั้นนำการเล่นลูกไหลหลังหรือกระเติงหลัง จะมีการพลิกแพลงมากขึ้นทำให้จับทางยาก ลักษณะการเล่นจะเป็นดังนี้
1. เข้าทำการรุกลักษณะบอลเร็วแต่เปลี่ยนทิศทางก้าวเขย่งตบด้านหลังใกล้ตัวเซต (ไหลสั้น)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/ATshort.gif)
2. เข้าทำการรุกลักษณะบอลเร็วแต่เปลี่ยนทิศทางก้าวเขย่งตบด้านหลังห่างตัวเซต (ไหลยาว)
![](http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/793/22793/images/quick/ATlong.gif)
เทคนิคการเล่นบอลเร็วขั้นสูงที่ได้นำเสนอมานี้ เป็นตัวอย่างที่สามารถใช้ได้จริงในการแข่งขัน การเลือกฝึกในแต่ละเทคนิคจำเป็นต้องดูศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคนประกอบด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)