วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

ตารางอันดับโลกวอลเลยฺบอล


รูปแบบเทคนิคการเสิร์ฟ : กระโดดลอยตัวเสิร์ฟ

กระโดดลอยตัวเสิร์ฟ Jump Float
ทักษะ นี้เป็นการรวมเอาการกระโดดเสิร์ฟและการเสิร์ฟมือบนเข้าด้วยกัน การเสิร์ฟลักษณะนี้ลักษณะของบอลจะไม่รุนแรง แต่จะพุ่งเข้าใส่ตัวผู้รับในลักษณะส่ายและร่อนซึ่งการบังคับบอลจะทำได้ยาก จุดสำคัญของการเสิร์ฟลักษณะนี้คือจังหวะการตีบอล การใช้แรงตบกระแทกบอลให้ส่ายร่อน การกระโดดจะช่วยให้วิถีของบอลพุ่งขนานตาข่ายเข้าสู่ระดับอกของผู้รับ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจลักษณะการเคลื่อนที่ของลูกบอลที่มีประสิทธิภาพในการเสิร์ฟลักษณะนี้คือ ลูกบอลจะต้องส่ายและร่อน ดังนั้นผู้เล่นจะต้องรู้วิธีการว่าตบบอลอย่างไรถึงส่ายและร่อน  ลักษณะ ของบอลที่ส่ายและร่อนนั้นเกิดจากการตบบอลโดยใช้แรงกระแทกจากฝ่ามือไปยัง บริเวณกึ่งกลางลูกบอล การใช้แรงกระแทกจะทำให้บอลส่ายร่อนและไม่หมุน ฝึกตีลูกบอลให้บอลส่ายและไม่หมุนจนเกิดความชำนาญ แล้วจึงค่อยกระโดดเสิร์ฟ
1. ก้าวเท้า 3 จังหวะ
2. โยนบอลขึ้นไปบนอากาศขณะก้าวเท้าแรก
3. โยนบอลไปด้านหน้าไม่สูงมากเกินไป
4. กระโดดลอยตัวไปด้านหน้าเข้าหาบอล
5. สัมผัสบริเวณกึ่งกลางของบอล และแขนเหยียดก่อนตัวจะตกลงในสนาม
6. ลักษณะของบอลต้องไม่หมุนหรือปั่น บอลจะต้องลอยไปนิ่ง ๆ

7. ทิศทางของลูกบอลจะต้องตรงไปยังผู้เล่นเป้าหมาย

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

การรับลูกวอลเลย์บอล

1. การงัดบอลจากพื้น THE COLLAPSE
ลักษณะการรับบอลนี้มักจะเกิดจากคู่ต่อสู้ตบบอลลงบริเวณพื้นที่ ประมาณ 5 ตารางฟุตด้านหน้าเรา การเล่นลูกลักษณะนี้ถือว่าเป็นเทคนิคชั้นสูง ที่ใช้ในการเล่นวอลเลย์บอล ลักษณะท่าทางการรับแบบนี้คือ ให้เหยียดแขนไปด้านหน้าให้ถึงจุดที่ลูกบอลจะตกพื้น เกี่ยวบอลด้วยข้อนิ้วโป้งทั้งสองหรือใช้ท่อนแขนช้อนไปที่ใต้บอล ก่อนที่บอลจะกระทบพื้น การงัดบอลจากพื้นอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ขณะที่เหยียดแขนไปที่ใต้บอลต้องส่งตัวไปข้างหน้า เข่า และข้อศอกกระทบกับพื้นหร้อมกัน เมื่อกระทบกับลูกบอล ให้เกี่ยวบอลโดยหักข้อมือและข้อศอกเล็กน้อยก็สามารถทำให้บอลนั้นลอยขึ้นมาได้
2. การงัดบอลด้วยมือข้างเดียว THE ICE CREAM CONE
มีอยู่หลายวิธีที่จะเกี่ยวบอลให้ได้ด้วยข้อมือและแขนของเรา วิธีการเล่นแบบนี้มีหลักการเล่นที่ง่ายที่สุด เมื่อบอลกำลังกระทบพื้นและห่างตัวเรา ให้ยืดแขนเกร็งข้อมือ เข้าหาบอลแล้วใช้ข้อมือเกี่ยวบอล หลังจากนั้นเราจะต้องใช้ทักษะการพุ่ง ( DIVE ) หรือการม้วนทั้งซ้ายหรือขวา เพื่อป้องกันร่างกายไม่ให้กระแทกพื้น
ข้อควรจำ การเล่นบอลห่างตัวด้วยมือเดียวคือ ต้องมีทักษะการพุ่ง ( DIVE ) ม้วนหน้า หลัง ข้าง
3. การเกี่ยวบอล THE HOOK SHOT (เมื่อตัวเคลื่อนไปทิศทางตรงข้ามกับบอล)
ทักษะการรับที่ยากที่สุดทักษะหนึ่ง คือการเกี่ยวบอลให้กลับเข้ามาในสนาม เมื่อตัวของเราเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับบอล แต่ ” HOOK SHOT ” ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเมื่อคู่ต่อสู้ตบบอลแฉลบบล๊อคมาอย่างไร้ทิศทาง
ตัวอย่างในภาพเป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบ ผู้เล่นสามารถเกี่ยวบอลเข้ามาในสนามได้ กุญแจสำคัญของทักษะนี้คือ จังหวะของการใช้ข้อมือต้องพอดี เราต้องรู้จังหวะเวลาด้วยตัวเองเพราะเราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าบอลจะมาลักษณะใด หลังจากการเล่น ทักษะที่เราควรจดจำจังหวะความรู้สึกการเล่นไว้ พยายามให้ส่วนบริเวณข้อนิ้วโป้งสัมผัสบอล
จากภาพจะเห็นได้ว่า บริเวณด้านล่างของลูกบอล กระทบกับข้อมือของผู้เล่นเป็นบริเวณที่ดีที่สุดที่ทำให้บอลลอยขึ้นสู่อากาศ
4. การรับบอลไกลตัวด้านข้าง THE SWEEP
บางครั้งเราจะพบว่าบอลที่มาลักษณะต่ำและไกลจากตัวเรา วิธีการงัดบอล หรือพุ่งรับบอลมือเดียว ( DIVE ) ไม่สามารถใช้ได้ เทคนิคที่นำมาใช้ได้คือการกวาดบอล หลักสำคัญของการเล่นแบบนี้ จากภาพ การเคลื่อนไหวของแขนจะเริ่มก่อนที่จะกระทบบอล เพราะเราต้องการให้มีแรงพอที่จะให้บอลขึ้น แต่ไม่ต้องเหวี่ยงแขนกว้าง ที่สำคัญคือแขนต้องตึง เมื่อกระทบบอลแล้วให้เหวี่ยงแขนตามเหมือนการตีเบสบอล การที่แขนตึงและเหวี่ยงแขนตามนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ จะทำให้เราสามารถควบคุมบอลได้
5. การรับลูกตบที่รุนแรง THE FALL-AWAY
ความรู้สึกที่ดีอย่างหนึ่งในการเล่นวอลเลย์บอลคือ การสามารถรับลูกตบได้ แต่มันก็เป็นปัญหาพอสมควร ถึงแม้ว่าเราจะมีความเร็ว เหตุผลสำคัญคือ ความเร็ว และความแรงของบอลที่คู่ต่อสู้ตบมาอาจทำให้บอลที่เรารับได้ กระเด็นไร้ทิศทางควบคุมได้ยาก การรับลูกตบที่รุนแรงหลักสำคัญคือการผ่อนแรงรับลูกตบ แขนทั้งสองข้างประสานกันแต่ไม่เกร็ง บีบไหล่ให้แนบชิดกับลำตัวย่อตัวให้ต่ำ เมื่อบอลมากระทบแขนให้ผ่อนแรงโดยถ่ายน้ำหนักตัวไปด้านหลัง หักข้อศอกหรือข้อมือเล็กน้อยบอลจะลอยสูงขึ้นด้านบน หรือถ้าบอลรุนแรงมากเมื่อบอลกระทบแขนอาจจะทิ้งตัวล้มด้านหลังก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ แขนทั้งสองข้างต้องไม่แตกเมื่อกระทบบอลแขนตึงแต่ไม่เกร็ง การรับบอลตบที่รุนแรงนี้หากผู้เล่นฝ่ายรับทำได้ดี จะทำให้ผู้ตบบอลเสียกำลังใจได้ บางครั้งสามารถพลิกสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นดีได้
6. การรับบอลด้วยมือข้างเดียว ONE ARM REACH

วิธีที่ดีที่สุดในการรับบอลตบ คือการใช้สองแขนรับ แต่ก็ไม่เสมอไปที่เราจะรับบอลด้วยสองแขน เราจะทำอย่างไรเมื่อคู่ต่อสู้ตบบอลไปมุมท้ายสนาม ในสถานการณ์อย่างนี้เราต้องเล่นบอลด้วยมือข้างเดียว การเล่นลักษณะนี้ทักษะเริ่มต้นคือ ท่ายืนรับบอลต้องย่อต่ำ น้ำหนักตัวทิ้งไปด้านหน้าเพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้ง่าย เมื่อบอลที่คู่ต่อสู้ตบลอยไปทีมุมท้ายสนาม ให้ใช้เท้าส่งตัวพร้อมยืดแขนไปเกี่ยวบอลขึ้น

เทคนิคการเล่นบอลเร็ว

การเล่นวอลเลย์บอลในตำแหน่งตัวตบบอลเร็วหากจะให้มีประสิทธิภาพสูง นักกีฬาจะต้องพยายามพัฒนาเทคนิคการเล่นให้ได้หลากหลายนอกเหนือจากการเล่นแค่บอลเร็ว หน้า/หลังตัวเซต บอลเร็วห่าง หน้า/หลังตัวเซต หรือกระเติงไหลหลัง ทั้งนี้เพื่อให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถจับทางได้ง่าย การเล่นบอลเร็วนั้นหากนักกีฬามีความคิดสร้างสรรค์จะสามารถสร้างรูปแบบการรุกบอลเร็วได้มากมายหลายแบบ เทคนิคที่ผมจะนำเสนอเป็นเทคนิคขั้นสูงในการเล่นบอลเร็วซึ่งมีหลายแบบโดยช่วงแรกจะเป็นเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับนักวอลเลย์บอลชายมีดังนี้
1. “บอลพม่า” (เป็นชื่อเรียกเทคนิคการเล่นบอลเร็วขั้นสูงชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดีในประเทศไทย) (Faking A-quick and hitting B)
เทคนิคนี้เป็นการเล่นในลักษณะที่ผู้เล่นบอลเร็วเข้าทำการรุกในลักษณะบอล A แต่ในจังหวะกระโดดจะไม่กระโดดทันที ดึงจังหวะให้ตัวเซตเซตบอล B (บอลที่สูงเหนือตาข่าย 1-2 เมตร) จึงกระโดดตบ การเล่นลักษณะนี้เมื่อเราเข้าทำการรุกในลักษณะบอลเร็วจะหลอกให้ตัวสกัดกั้นกระโดดสกัดกั้นบอลเร็วแต่เราดึงจังหวะเพื่อตบบอล B เมื่อตัวสกัดกั้นตกสู่พื้นพอดีทำให้ไม่มีการสกัดกั้น

ข้อแนะนำเพิ่มเติม
สามารถใช้เทคนิคนี้เล่นกับการรุกในลักษณะบอลเร็วห่างตัวเซต X ได้ด้วยอาจเรียกบอลลักษณะนี้ว่า X พม่า และบอลพม่านี้สามารถเล่นได้ทั้งด้านหน้าตัวเซตและด้านหลังตัวเซต
2. “บอล XB” (Faking A-quick and hitting B) 

เทคนิคนี้ลักษณะการเล่นคือผู้เล่นเข้าทำการรุกในลักษณะบอลเร็วห่างตัวเซต X แต่เปลี่ยนทิศทางมาตบบอล ใกล้ตัวเซต
3. “เข้าทำการรุกลักษณะบอล แต่ทำการรุกไหลหลัง

เทคนิคการเล่นนี้เป็นการเล่นคล้ายบอลพม่า โดยเข้าทำการรุกในลักษณะบอลเร็วหน้าแต่เปลี่ยนทิศทางการรุกโดยเคลื่อนที่ไปตบบอลไหลหลัง สำหรับผู้เล่นที่ถนัดมือซ้ายสามารถเล่นเทคนิคนี้ได้เช่นกันโดยเปลี่ยนจากการเข้าหลอก หน้ารุกไหลหลังเป็นการเข้าหลอก หน้ารุกไหลหน้าแทน

เทคนิคการเล่นนี้เป็นการเล่นที่ผู้เล่นเข้าตบลักษณะบอลเร็วหน้า ซึ่งจะทำให้ตัวสกัดกั้นกระโดด เปลี่ยนทิศทางการรุกจะทำให้ไม่มีการสกัดกั้นหากผู้เล่นตัวสกัดกั้นหน้าซ้ายกระโดดสกัดกั้นบอล ที่ผู้เล่นเข้าหลอก หรือหากผู้เล่นสกัดกั้นตัวกลางกระโดด ก็อาจจะทำให้ผู้เล่นหน้าซ้ายต้องเคลื่อนที่สกัดกั้นเพียงคนเดียว
4. เทคนิคการลอยตัวตบ (Flyer)”

เทคนิคการลอยตัวตบเป็นเทคนิคการเล่นที่กระโดดจากจุดหนึ่งแต่ลอยตัวไปตบบอลที่จุดหนึ่ง ซึ่งเทคนิคนี้จะเป็นต้องมีศักยภาพในการกระโดดได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้เล่นสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการลอยตัวสร้างสรรค์การรุกได้หลากหลาย

4.1 การกระโดดลอยตัวจากด้านหน้าตัวเซต (ดูภาพประกอบ)
                                                                    

เป็นเทคนิคที่ผู้เล่นกระโดดจากบริเวณหน้าตัวเซต แต่ลอยตัวไปตบบอลในตำแหน่งต่างๆ เช่น บอลเร็วห่าง X บอลเร็วหน้าไหล บอลเร็วหลัง(ตัวเซต) บอลเร็วห่าง หลัง(ตัวเซต) ดังภาพ
4.2 การกระโดดลอยตัวจากด้านหลังตัวเซต



การเล่นจะคล้ายคลึงกับการกระโดดลอยตัวหน้าตัวเซต

4.3 การกระโดดจากตำแหน่งรุกบอลเร็วห่าง ลอยตัวมาตบบอลเร็ว ใกล้ตัวเซต


4.4 การกระโดดจากตำแหน่งรุกบอลเร็วห่าง หลังตัวเซตลอยตัวมาตบบอลเร็ว หลังใกล้ตัวเซต



เทคนิคการลอยตัวตบนี้เป็นการหลอกให้ตัวสกัดกั้นกระโดดผิดตำแหน่ง โดยปกติในการสกัดกั้นการรุกบอลเร็ว ตัวสกัดกั้นจะต้องกระโดดพร้อมตัวรุกและตรงแนวการรุกของตัวตบ (face-to-face) หากผู้เล่นกระโดดจากจุดหนึ่งลอยไปตบบอลอีกจุดหนึ่งจะทำให้ตัวสกัดกั้นกระโดดผิดตำแหน่ง เทคนิคการลอยตัวตบ ต้องใช้ศักยภาพในการกระโดดสูง เทคนิคนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับนักวอลเลย์บอลหญิงเท่าใดนัก สำหรับนักวอลเลย์บอลหญิงเหมาะสมกับเทคนิคประเภทการเข้ารุกแล้วเปลี่ยนทิศทางมากกว่า

เทคนิคการเล่นบอลเร็วขั้นสูงสำหรับนักกีฬาหญิง

เทคนิคการเล่นบอลเร็วของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงที่เรามักเห็นกันบ่อยในปัจจุบันคือ เทคนิคการก้าวเขย่งตบ หรือที่เรารู้จักกันว่า ไหลหลัง หรือกระเติงหลังนั่นเอง แต่ลักษณะการเล่นของนักกีฬาไทยโดยส่วนใหญ่การเคลื่อนที่เพื่อไปทำการรุกยังไม่มีการพลิกแพลงทำให้การดักทางของแนวสกัดกั้นทำได้ง่าย ในระดับทีมชั้นนำการเล่นลูกไหลหลังหรือกระเติงหลัง จะมีการพลิกแพลงมากขึ้นทำให้จับทางยาก ลักษณะการเล่นจะเป็นดังนี้

1. เข้าทำการรุกลักษณะบอลเร็วแต่เปลี่ยนทิศทางก้าวเขย่งตบด้านหลังใกล้ตัวเซต (ไหลสั้น)


2. เข้าทำการรุกลักษณะบอลเร็วแต่เปลี่ยนทิศทางก้าวเขย่งตบด้านหลังห่างตัวเซต (ไหลยาว)

เทคนิคการเล่นบอลเร็วขั้นสูงที่ได้นำเสนอมานี้ เป็นตัวอย่างที่สามารถใช้ได้จริงในการแข่งขัน การเลือกฝึกในแต่ละเทคนิคจำเป็นต้องดูศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคนประกอบด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การเซตวอลเลย์บอล

    ในการเล่นวอลเลย์บอลตำแหน่งผู้เล่นที่มีความสำคัญที่สุดในทีมคือ ผู้เล่นตำแหน่งตัวเซ็ต (setter) นอก จากจะเป็นตำแหน่งที่จะต้องเซ็ตบอลให้เพื่อนร่วมทีมตบแล้ว ตัวเซ็ตยังเป็นผู้เล่นที่ได้สัมผัสบอลมากที่สุดในทีม เพราะการเล่นวอลเลย์บอลในจังหวะที่ 2 ของการเล่นเราจะต้องพยายามให้ตัวเซ็ตเป็นผู้เล่นเพื่อเซ็ตจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมตบ เป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญสำหรับทีมเหมือนหัวใจของทีม ทีมใดที่มีตัวเซ็ตที่ดี ทีมนั้นจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ตัวเซ็ตที่ดีต้องรู้จักแก้ไข สถานการณ์ในยามคับขัน เป็นศูนย์รวมของทีม
ในตอนนี้ผมจะนำเสนอเทคนิคการเล่นที่จำเป็นของตัวเซ็ต สามารถแบ่งออกได้ 6 รูปแบบดังนี้
1. การเซ็ตจากพื้น Ground up
2. การเซ็ตบอลที่ต่ำ Hand setting the low
3. การกระโดดเซ็ต Jump set
4. การทิปบอล The tip
5. การแก้ไขบอลที่ล้ำเหนือตาข่าย Save the tight pass
6. การแก้ไขบอลที่พุ่งเข้าสู่ตาข่าย Save the net
การเซ็ตจากพื้น ( Ground up )
เป็น เทคนิคการเล่นพื้นฐานของตัวเซ็ต หรือหากจะพูดง่าย ๆ ก็คือการยืนเซ็ตนั่นเอง สิ่งที่สำคัญในการเซ็ตบอลจากพื้นคือ " เท้าต้องเร็ว " หมายถึงการเคลื่อนที่ของเท้าในการเข้าหาลูกบอลต้องเร็ว เคลื่อนที่ไปถึงบอลก่อนทำการเซ็ต การวางเท้าทั้งสองข้างจะเสมอกับไหล่ เข่างอเล็กน้อย ทิ้งน้ำหนักตัวไปที่เท้าทั้งสองข้างเท่า ๆ กัน เท้าที่อยู่ใกล้ตาข่ายจะใช้เป็นเท้านำ การทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหน้าหรือหลังจะทำให้การเคลื่อนที่เปลี่ยนทิศทาง ลำบาก

การเตรียมพร้อมการเซ็ต มือทั้งสองข้างอยู่เหนือศีรษะบริเวณหน้าผาก ข้อศอกทำมุมประมาณ 45 - 90 องศา การเซ็ตจะต้องใช้ทุกนิ้วในการสัมผัสบอล สัมผัสพื้นที่ของบอลให้มากที่สุด นิ้วนางและนิ้วก้อย จะทำหน้าที่ประคองบอล เมื่อทำการเซ็ตบอลบอลจะต้องอยู่เหนือศีรษะ ใช้ข้อมือ นิ้วดีดบอลออกไปแล้วส่งแขนตามบอลเพื่อช่วยในการควบคุมทิศทาง

รเซ็ตบอลที่ต่ำ Hand setting the low
บางครั้งตัวเซ็ตจะประสบกับปัญหาบอลที่มาถึงตัวต่ำและเร็ว แทนที่จะรอให้บอลกระทบกับตาข่าย ตัวเซ็ตควรจะรีบเคลื่อนที่เข้าไปเล่นบอลนั้น โดยการเคลื่อนที่ไปใต้บอลย่อตัวให้ต่ำและทำการเซ็ต ( ดูภาพประกอบ ) ถ้าสามารถทำได้จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาการเซ็ตบอลที่มาต่ำ 
เทคนิคการเล่น ต้องคาดคะเนวิถีของบอลอย่างรวดเร็ว เคลื่อนที่ไปยังจุดที่คาดว่าบอลจะตก ย่อตัวลงให้ต่ำกว่าบอลเพื่อที่จะเซ็ตบอลไปยังเป้าหมาย

การกระโดดเซ็ต Jump set
การกระโดดเซ็ตเป็นอาวุธที่สำคัญของตัวเซ็ตชั้นนำ สามารถสร้างความได้เปรียบในเกมรุกมาก เช่น

-
ความเร็วในเกมรุก การกระโดดเซ็ตตัวเซ็ตจะต้งเข้าถึงบอลเร็วเพื่อเซ็ตบอลทำให้ความเร็วในการรุกเพิ่มขึ้นด้วย- ประสิทธิภาพของการรุกด้วยบอลเร็ว (Quick spike) จะมากขึ้นเพราะเมื่อตัวตบบอลเร็วของเรากระโดด ความสูงของตัวเซ็ตเมื่อกระโดดเซ็ตจะใกล้เคียงกับตัวตบ ลักษณะบอลที่ตัวเซ็ต ๆ ออกมาจะขนานตาข่าย ทำให้ตัวตบบอลเร็วสามารถเล่นได้ง่ายกว่าบอลที่เซ็ตมาจากมุมต่ำ
-
สามารถหลอกตัวสกัดกั้น (Blocker) เมื่อตัวเซ็ตอยู่แดนหน้า (Front Low) ตัวเซ็ตอาจใช้ลูกทิปให้ตัวสกัดกั้นกังวล เมื่อตัวสกัดกั้นเห็นตัวเซ็ตกระโดดก็มักจะกระโดดตามทำให้เกิดช่องว่างในการสกัดกั้นขึ้น ตัวตบของเราจะสามารถตบบอลลงในแดนตรงข้ามได้ง่ายขึ้น 
เทคนิคการกระโดดเซ็ตที่สำคัญคือ เคลื่อนที่เข้าหาบอลให้เร็วแล้วกระโดดเซ็ต โดยเซ็ตบอลขณะที่กระโดดถึงจุดสูงสุด ส่วนลักษณะการเซ็ตอื่นก็จะเหมือนกับการเซ็ตจากพื้น (Ground Up) 
ผู้เล่นที่จะเป็นตัวเซ็ตที่ดี จะต้องฝึกซ้อมการกระโดดเซ็ตอยู่เสมอ ตัวเซ็ตชั้นนำมักจะกระโดดเซ็ตทุกครั้งที่เล่นบอล

การทิปบอล The tip
เป็น เทคนิคเฉพาะที่สำคัญอย่างหนึ่งของตัวเซ็ต สามารถใช้แก้ไขสถานการณ์ยามคับขัน ตัวเซ็ตชั้นนำมักใช้การเล่นลูกทิป เพื่อทำให้คู่ต่อสู้กังวล เทคนิคนี้จะใช้เมื่อบอลลอบอยู่เหนือตาข่าย เช่น บอลที่ผู้รับลูกเสริฟมาสูงและเร็วจนตัวเซ็ตไม่สามารถเซ็ตได้สถานการณ์ที่การ ใช้ลูกทิปได้ผลมากที่สุด คือ เมื่อบอลรับลูกเสริฟเข้าเป้าหมายเหนือตาข่าย เพราะคู่ต่อสู้มักคาดไม่ถึงว่าเราจะใช้การทิป
        
เทคนิคในการเล่นลูกทิป (Tip) คือ ใช้กระโดดเหยียดแขนให้สุดใช้ปลายนิ้วสัมผัสบอลพร้อมกับพลิกข้อมืออย่างเร็ว หรือถ้าเราจะใช้การทิปเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ให้กระโดดอยู่ในท่าของการเซ็ต เมื่อเห็นบริเวณที่ว่างในแดนคู่ต่อสู้และไม่มีตัวสกัดกั้น ให้ทิปบอลลงไปในบริเวณที่ว่างนั้น

บริเวณที่ส่วนใหญ่ตัวเซ็ตจะทิปบอลไปคือบริเวณที่ว่างกลางสนาม เพราะเป็นบริวณที่ผู้เล่นในตำแหน่ง หลังขวา (Back Right) และหลังซ้าย (Back Left) มัก จะเกี่ยงกันเล่นทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ เทคนิคชั้นสูงของตัวเซ็ตชั้นนำคือจะหลอกตัวรับฝั่งตรงข้ามว่าจะทิปบริเวณแดน หน้า เมื่อตัวรับเคลื่อนตัวเข้ามารับก็จะเปลี่ยนทิศทางโดยทิปข้ามศีรษะตัวรับ ไปบริเวณเส้นท้าย
 
การแก้ไขบอลที่ล้ำเหนือตาข่าย Save the tight pass
หลายครั้งที่ตัวเซ็ตจะประสบปัญหาบอลรับลูกเสริฟมักล้ำอยู่เหนือตาข่าย แทนที่จะกลัวคู่ต่อสู้ตบบอลกลับมา ตัวเซ็ตที่ดีต้องพยายามหาทางแก้ไขสถานการณ์ 
- เมื่อตัวเซ็ตเป็นผู้เล่นแดนหน้า (Front Row) สิ่งแรกที่ควรทำคือ การกระโดดเซ็ต เมื่อบอลลอยอยู่เหนือตาข่ายคู่ต่อสู้มักจะตบบอลสวนกลับมา หากตัวเซ็ตอยู่ในลักษณะการเซ็ต ผู้ตัดสินจะให้ฝ่ายที่ตบบอลฟาล์ว (Overnet) หรือหากไม่สามารถทำการเซ็ตได้ให้กระโดพลิกตัวเพื่อทำการสกัดกั้น หรืออาจจะใช้การดันบอล (Joust) สู้กันเหนือตาข่าย ตัวเซ็ตที่ดีมักจะทำการรุกจังหวะ 2 เมื่อบอลลอยมาลักษณะนี้โดยใช้การทิป (Tip) หรือการตบ 
- เมื่อตัวเซ็ตเป็นผู้เล่นแดนหลัง (Back Row) ให้พยายามทำการเซ็ตโดยเหยียดแขนไปที่บอลแล้วเซ็ตกลับมาสู่แดนตัวเอง หรือเซ็ตบอลด้วยมือข้างเดียว (ดูภาพประกอบ) โดยยื่นแขนข้างที่ใกล้ตาข่ายไปที่บอล เกร็งนิ้วและข้อมือดีดบอลให้เพื่อนร่สมทีมทำการรุก อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ หลอกคู่ต่อสู้โดยกระโดดสกัดกั้น เมื่อผู้เล่นฝ่ายรุกตบบอลก็ให้หดมือลง บางครั้งในสถานการณ์อย่างนี้ ฝ่ายตรงข้ามอาจจะไม่ได้สังเกตุว่าใครคือผู้เล่นแดนหน้า เมื่อเห็นบล๊อคอาจจะหยอด หรือตบบอลหลบบล๊อค จะง่ายต่อการรับ 


การแก้ไขบอลที่พุ่งเข้าสู่ตาข่าย Save the net
ในเกมส์การแข่งขันปัญหาหนึ่งที่ตัวเซ็ตมักเจอคือบอลที่พุ่งเข้ากระทบตาข่าย ผู้เล่นที่ดีจะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์การเล่นให้ได้ เพื่อไม่ให้เสียคะแนน เมื่อบอลกระทบตาข่าย สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำคือ 
อันดับแรก ท่าทางการยืนเตรียมรับบอลตัวจะต้องให้ต่ำ ย่อเข่าและสะโพกให้มากที่สุด เพื่อรอรับบอลที่จะกระดอนออกมาจากตาข่าย จากนั้นให้มองว่าลูกบอลจะกระทบตาข่ายบริเวณใด  
บอลที่กระทบตาข่ายในบริเวณด้านบน โอกาสที่ลูกบอลจะม้วนลงบริเวณหน้าตาข่ายจะมีสูง ดังนั้นจะต้องเคลื่อนที่เข้าไปให้ใกล้ตาข่ายเพื่อเข้าถึงและเล่นบอล
บอลที่กระทบตาข่ายบริเวณด้านล่าง โอกาสที่ลูกบอลจะกระดอนออกมาจะมีสูง ดังนั้นผู้เล่นจะต้องคาดคะเนและพร้อมที่จะเข้าให้ถึงลูกบอล 
ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงในการเล่นบอลลักษณะนี้คือ ลักษณะการยืนเตรียมพร้อมของร่างกายโดยที่ไม่ย่อเข่าและตัวให้ต่ำ และไม่ได้มองลูกบอลว่ากระทบตาข่ายบริเวณใด

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การตบวอลเลย์บอล

ขั้นตอนการสอนทักษะการตบ
ขั้นตอนที่ 1 การเหวี่ยงแขนในการตบ
วิธีการเหวี่ยงแขนและตำแหน่งตบบอล
จุดสำคัญในการสอน :  เหวี่ยง แขนอย่างรวดเร็วไปด้านหลัง ข้อศอกอยู่ระดับใบหู ตีบอลขณะบอลลอยอยู่เหนือศีรษะขณะที่บอลลอยอยู่สูงสุด ขณะสัมผัสบอลหักข้อมือลง ไม่แกว่งข้อศอก
ขั้นตอนที่ 2 กระโดดจับลูกบอล
ฝึกท่าทางจังหวะการกระโดดตบบอล
จุดสำคัญในการสอน :  การก้าวเท้า 2 ก้าว ผู้เล่นถนัดขวาก้าวเท้าขวาก่อน มุมของลำตัวขณะจะเริ่มกระโดดเพื่อให้กระโดดสูงที่สุด
ขั้นตอนที่ 3 การหยอด
จุดสำคัญในการสอน :  สัมผัสบอลด้วยปลายนิ้ว ไม่ใช้ฝ่ามือ ใช้การบิดข้อมือบังคับทิศทางลูกบอล ระวังการเล่นบอล 2 จังหวะ
ขั้นตอนที่ 4 การตบบอล
โยนลูกบอลเหนือตาข่ายแล้วกระโดดตบ
จุดสำคัญในการสอน :  ท่าทางและจังหวะในการเคลื่อนที่ขณะกำลังกระโดด ขณะลอยตัว ขณะตบลูกบอล และการลงสู่พื้น
ขั้นตอนที่ 5 ตบบอลแนวตรงและแนวทแยง

ขั้นตอนที่ 6 การตบบอลที่เซตมาด้านหลัง
จุดสำคัญในการสอน :  สังเกตการณ์เซตของตัวเซต และการเข้าตบบอลให้ถูกจังหวะ
ขั้นตอนที่ 7 ตบบอลเปลี่ยนทิศทางโดยการเปลี่ยนมุมการกระโดด
จุดสำคัญในการสอน :  โยนบอลไม่สูงเกินไป เหวี่ยงแขนไปด้านหลังงอศอก เหวี่ยงแขนกลับข้ามหัวไหล่

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ประโยชน์การเล่นวอลเลย์บอล

๑. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ฝึกหัดเล่นให้เป็นได้ง่ายและเล่นได้ทุกเพศทุกวัย เมื่อเล่นวอลเลย์บอลเป็นแล้ว จะทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นกีฬาได้นานกว่ากีฬาบางประเภท ซึ่งคุ้มกับที่ได้ฝึกฝนมาแม้แต่สตรีที่มีบุตร
แล้วหากมีร่างกายแข็งแรงก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้เป็นอย่างดี
๒. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททีม จึงต้องมีการฝึกซ้อมเพื่อให้การเล่นในทีมมีความสัมพันธ์และรักใคร่ปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หากทีมใดขาดความสามัคคีแล้ว เมื่อลงแข่งขันย่อมจะมีชัยชนะได้ยาก ผลของการเล่นกีฬาประเภทนี้จึงสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีนิสัยรักใคร่สามัคคีกันระหว่าง
หมู่คณะมากยิ่งขึ้น
๓. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ช่วยฝึกฝนให้ผู้เล่นมีไหวพริบที่ชาญฉลาดและแก้ปัญหา อย่างฉับพลันทันที เพราะการเล่นวอลเลย์บอลนั้นผู้เล่นจะต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งต้องมีไหวพริบที่ดีสามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่าง ๆ ได้จึงจะทำให้มีชัยชนะในการเล่น
๔. การเล่นวอลเลย์บอลเป็นการส่งเสริมและฝึกให้ผู้เล่นมีจิตใจเยือกเย็น สุขุม รอบคอบ อารมณ์มั่นคง มีสมาธิดี มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะผู้เล่นที่อารมณ์ร้อน มุทะลุ ดุดัน เอาแต่ใจตนเอง จะทำให้การเล่นผิดพลาดบ่อย ๆ ถ้าเป็นการแข่งขันก็จะแพ้ฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อตัวผู้เล่นวอลเลย์บอล
ที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันให้เกิด ประโยชน์ต่อตนเองและสังคมอีกด้วย
๕. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่เล่นได้โดยไม่จำกัดเวลา ถ้าหากผู้เล่นรู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งอาจ
จะเล่นตอนเช้า สาย บ่าย เย็นหรือแม้แต่ในเวลากลางคืนก็ได้ถ้ามีแสงสว่างเพียงพอ และเล่นได้ทั้งในที่ร่ม
หรือกลางแจ้ง
๖. การเล่นวอลเลย์บอล ผู้เล่นต่างก็อยู่ในแดนของตนเองและมีตาข่ายขึงกั้นกลางสนาม ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะปะทะกันระหว่างผู้เล่นทั้งสองฝ่าย จึงไม่ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น
๗. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้เล่นอย่างหนึ่ง เพราะผู้เล่นจะต้องถูกฝึกให้มีระเบียบ
มี วินัย มีเหตุมีผล รู้จักการเป็นผู้นำผู้ตาม และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการปลูกฝังนิสัยอันมีผลที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วย
๘. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่มีกฎกติกา ผู้เล่นต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎกติกาการเล่น ดังนั้นการเล่นวอลเลย์บอล
ย่อมช่วยสอนให้ผู้เล่นรู้จักความยุติธรรม มีความอดทนอดกลั้น รู้จักเคารพสิทธิของผู้อื่น
๙. วอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภทหนึ่ง ที่ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางด้านร่างกายให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง เพราะผู้เล่นจะต้องฝึกให้ร่างกายแข็งแรง มีความอดทน มีความคล่องแคล่วว่องไว มีพลังและความเร็ว เมื่อร่างกายได้ออกกำลังกายแล้วยังช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ทำงานประสานสัมพันธ์กัน
เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อร่างกายแข็งแรงก็จะช่วยเพิ่มความสามารถ
ของร่างกายให้มีความต้านทานได้ดีด้วย
๑๐. กีฬาวอลเลย์บอลเหมือนกับกีฬาประเภทอื่น ๆ ที่สร้างความมีน้ำใจนักกีฬา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การรู้จักแพ้
ชนะและอภัย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการเป็นสื่อกลางก่อให้เกิดความสนิทสนมคุ้นเคยและมีสัมพันธ
์ไมตรีอันดีต่อกัน ทั้งระหว่างภายในประเทศและระหว่างประเทศได้อย่างดี
๑๑. ปัจจุบันผู้เล่นวอลเลย์บอลที่มีความสามารถสูง ยังมีสิทธิ์ได้เข้ามาศึกษาต่อในระดับสูงบางสาขา บางสถาบัน ทั้งสถานการศึกษาของรัฐและเอกชน นอกจากนี้ยังมีหลายหน่วยงานทารับบุคคลที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเข้าทำงาน เพราะวอลเลย์บอลกำลังเป็นกีฬาที่นิยมของวงการทั่วไปและมีการแข่งขันกันอยู่ เป็นประจำ